ประโยชน์ 10 ชนิดของสัปปะรดต่อสุขภาพ

18099 จำนวนผู้เข้าชม  | 

สับปะรดเป็นผลไม้เขตร้อนที่มีรสเปรี้ยวอมหวาน ชุ่มฉ่ำน้ำ ช่วยคลายความร้อนและแก้อาการกระหายเป็นอย่างดี สัปปะรดอุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระไฟเบอร์วิตามิน A และ C วิตามิน B แคลเซียมโพแทสเซียม ฟอสฟอรัส แมงกานีส และโฟเลต สัปปะรดเป็นผลไม้ที่แคลอรี่ ไขมัน และโซเดียมต่ำดีต่อสุขภาพและสำหรับผู้ที่ควบคุมน้ำหนัก

นอกจากเป็นผลไม้ที่ชุ่มฉ่ำแล้ว สัปปะรดยังสามารถนำมาทำเป็นสมูธตี้เย็นๆที่ดับกระหายในหน้าร้อนได้อย่างดีอีกด้วย หรือนำมาปรุงอาหาร เช่น บาบีคิว ซัลซ่า หรือพิซซ่าฮาวาเอี้ยน ล้วนแล้วแต่มีประโยชน์ต่อร่างกาย

  1. ช่วยย่อยอาหาร สับปะรดเป็นผลไม้ที่มีเส้นใยอาหารและดีต่อระบบย่อยและขับถ่าย และยังช่วยผ่อนคลายเยื่อบุของกระเพาะอาหารและลำไส้ สัปปะรดอุดมไปด้วยเส้นใยที่ละลายน้ำและไม่ละลายน้ำและมี Bromelain ซึ่งเป็นเอนไซม์โปรตีนและช่วยย่อยอาหาร สับปะรดยังช่วยรักษาโรคติดเชื้อระบบทางเดินลำไส้ นอกจากนี้น้ำสับปะรดทำงานเป็นยาระบายธรรมชาติสำหรับผู้มีปัญหาอาการท้องผูก *สามารถรัปประทานได้ในปริมาณที่พอเหมาะ แต่หากรับประทานมากเกินไปจะทำให้ปวดท้อง

  2. กระตุ้นภูมิคุ้มกัน สับปะรดเต็มไปด้วยวิตามิน C ซึ่งมีประโยชน์ต่อระบบการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน มันจะช่วยปกป้องร่างกายจากไวรัสและเพิ่มภูมิต้านทานของคุณป้องกันการเป็นไขหวัดไวรัสชนิดต่างๆ วิตามิน C ยังทำงานเป็นสารต้านอนุมูลอิสระในการปกป้องเซลล์ของร่างกายเสียหายจากอนุมูลอิสระ การสะสมของอนุมูลอิสระที่ก่อให้เกิดคราบจุลินทรีย์สะสมหลอดเลือดแดงที่นำไปสู่หลอดเลือดเป็นสาเหตุของโรคหัวใจและหลอดเลือด

  3.  บรรเทาอาการแพ้ท้อง การกินสับปะรดในช่วงเช้าสามารถช่วยลดอาการคลื่นไส้อาเจียนที่เกิดจากการแพ้ท้องได้ เป็นยาพื้นบ้านที่มีสรรพคุณแสดงให้เห็นการดื่มน้ำสับปะรดเพื่อบรรเทาอาการแพ้ท้อง ผลจากการบรรเทาอาการคลื่นไส้ และยังมีสารอาหาร วิตามินสูงและแร่ธาตุโดยเฉพาะอย่างยิ่งวิตามินB6 ที่ช่วยบรรเทาอาการคลื่นไส้จากการตั้งตั้งครรภ์

  4. เหมาะสำหรับผู้ที่ควบคุมน้ำหนัก สับปะรดเป็นผลไม้ที่ดีสำหรับผู้ที่ประสงค์จะลดน้ำหนักและควบคุมอาหาร เพราะปับปะรดเป็นผลไม้ที่มีความชุ่มฉ่ำ และมีเส้นใยมากมันจะทำให้คุณรู้สึกอิ่มและให้พลังงานโดยไม่ต้องเพิ่มแคลอรี่มากเกินไป สัปปะรด 1 ถ้วยให้พลังงานน้อยกว่า 60 แคลอรี่  ผลไม้ที่มีปริมาณน้ำสูงและเต็มไปด้วยเส้นใยที่ช่วยให้คุณรู้สึกอิ่มโดยที่ไม่ต้องรับประทานจุกจิก
     
  5. ป้องกันการเกิดความดันโลหิตสูง การบริโภคสับปะรดยังช่วยลดความเสี่ยงของความดันโลหิตสูงหรือความดันโลหิตสูง สัปปะรดเป็นผลไม้ที่เต็มไปด้วยโพแทสเซียมและโซเดียมต่ำ สับปะรด 1 ถ้วย มีประมาณหนึ่งมิลลิกรัมของโซเดียมและ 195 มิลลิกรัมของโพแทสเซียม โพแทสเซียมช่วยลดความดันโลหิตลดลงในขณะที่ระดับที่สูงขึ้นของโซเดียมเพิ่มความดันโลหิต

  6. การต่อสู้การอักเสบ สับปะรดมี Bromelain ที่ทำงานเป็นยาต้านอาการอักเสบจากธรรมชาติ มันต่อสู้อาการอักเสบที่เกี่ยวข้องกับปัญหากล้ามเนื้อ เช่น tendinitis อาการเคล็ดขัดยอก และการบาดเจ็บของกล้ามเนื้อเล็ก ๆ น้อย ๆ และยังช่วยในการลดรอยช้ำ จะช่วยบรรเทาโรคข้ออักเสบเช่นเดียวกับอาการปวดและการอักเสบจากโรคเกาต์

  7. บำรุงสายตา สัปปะรดเป็นผลไม้ที่อุดมไปด้วยวิตามิน A สับปะรดเป็นผลไม้ที่ดีสำหรับการรักษาสุขภาพตาและป้องกันการเสื่อมสภาพเป็นสาเหตุหลักของการสูญเสียการมองเห็นในผู้สูงอายุ

  8. รักษาสุขภาพกระดูก สับปะรดเป็นแหล่งอุดมไปด้วยแร่ธาตุแมงกานีสที่จำเป็นสำหรับสุขภาพของกระดูก การที่มีระดับแมงกานีสต่ำจะนำไปสู่ โรคเกี่ยวกับกระดูกและการสูญเสียกระดูกที่นำไปสู่ความหนาแน่นของกระดูกต่ำและโรคกระดูกพรุน แมงกานีสยังช่วยปกป้องเซลล์จากอนุมูลอิสระจึงช่วยชะลอกระบวนการชราและป้องกันโรคเรื้อรัง รวมทั้งโรคมะเร็ง

  9. บำรุงผิวให้เปล่งประกาย สับปะรดเป็นผลไม้ชั้นเลิศในการรักษา บำรุงและดูแลผิว มันอุดมไปด้วยวิตามินที่ช่วยในการซ่อมแซมเนื้อเยื่อที่เสียหายและช่วยบำรุงให้ผิวขาวกระจ่างใส ลดความหย่อนคล้อย และเอนไซม์ช่วยส่งเสริมความยืดหยุ่นของผิวและขจัดเซลล์ผิวที่ตาย ผลไม้ที่อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระนอกจากนี้ยังเป็นยาบำรุงที่ดีสำหรับการต่อต้านริ้วรอย

  10. บำรุงสุขภาพช่องปาก ปริมาณวิตามิน C ในสับปะรดจะช่วยป้องกันการก่อตัวของคราบจุลินทรีย์บนฟันและในทางกลับกันช่วยลดความเสี่ยงของโรคเหงือก การวิจัยแสดงให้เห็นว่าการเพิ่มปริมาณวิตามิน C ในร่างกายช่วยลดความเสี่ยงของโรคทางทันตกรรม กรดจากสัปปะรดยังช่วยขัดให้ฟันขาวใสอีกด้วย อาหารที่เป็นกรดเช่นสับปะรด ควรรับประทานและทำความสะอาดฟันหลังจากนั้น ไม่เช่นนั้น กรดอาจจะกัดฟันจนผุได้

ข้อมูลจาก  http://beautyclubthailand.com

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้